คุณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างไหมที่เรื่องราวชวนกวนใจเล่นวนเวียนอยู่ในหัวจนนอนไม่หลับ แน่นอนว่าเราก็อาจจะเจอค่ำคืนแบบนั้นมาบ้าง แต่คุณรู้ไหมว่าจริงๆ แล้วเราอาจจะโทษความคิดของเราอย่างเดียวไม่ได้ เพราะเราอาจจะไม่สังเกตเห็นแม้แต่น้อยว่าคนร้ายตัวจริงก็คือระดับค่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงขึ้นนั่นเอง
คาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 เป็นก๊าซตามธรรมชาติที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และมาจากกิจกรรมการเผาผลาญ ทั้งมนุษย์และสัตว์หายใจออกและปล่อยสารนี้ออกมาในอากาศ ถึงแม้ว่า CO2 จะเป็นก๊าซธรรมดา ๆ และไม่มีพิษภัย แต่การที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนไปถึงปริมาณที่สูงเกินไปก็จะทำอันตรายกับสุขภาพของเราได้เลยทีเดียว
อ้าว แล้วปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกี่ยวอะไรกับบ้านของคุณล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอนของคุณ ห้องที่อากาศไม่ถ่ายเทมักจะมีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูง โดยเฉพาะห้องที่มีคนอยู่มากกว่าหนึ่งคน เมื่อตอนที่เราหลับ เราจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และมันจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดทั้งคืนในห้องนอนที่หน้าต่างทุกบานปิดสนิท สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องนั้นก็คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมาแทนที่ก๊าซออกซิเจนที่เป็นสิ่งจำเป็นของคุณนั่นเอง
แต่ก่อนเราจะเข้าใจว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะต้องมีความเข้มข้นสูงถึง 5,000 ppm (หน่วยความเข้มข้นของสารละลาย) ถึงจะเป็นอันตรายกับสุขภาพของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามมีการวิจัยหลายชิ้นที่พิสูจน์แล้วว่า ระดับความเข้าข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 1,000 ppm ก็ทำอันตรายกับสุขภาพของคุณได้แม้ว่าเราจะอยู่กับมันแค่สองสามชั่วโมงก็ตาม คนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือเด็กและผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสุขภาพอยู่แล้ว
ระดับความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่สูงๆส่งผลอย่างไรกับร่างกายมนุษย์บ้าง
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีความเข้มข้นสูงส่งผลต่ออาการเจ็บป่วยได้หลายรูปแบบ ที่ระดับความเข้มข้น 2,500 – 5,000 ppm ทำให้คุณมีความรู้สึกเหนื่อยง่าย เวียนหัว และปวดหัวโดยมักจะปวดบริเวณด้านหลังของกะโหลก เมื่อมันไต่ระดับขึ้นไปที่ 5,000 – 40,000 ppm คุณจะรู้สึกปวดหัวรุนแรง และในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือเมื่อระดับความเข้มข้นของก๊าซพุ่งไปถึง 40,000 – 10,000 ppm คุณจะรู้สึกมึนงงในทันที เหงื่อแตกพลั่ก หัวใจเต้นถี่ หายใจลำบาก ชักเกร็ง และหมดสติในที่สุด
สถานการณ์สุดท้ายอาจจะฟังดูเลวร้ายที่สุดแล้ว แต่ถ้าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดเข้มข้นกว่านั้น มันสามารถฆ่ามนุษย์ได้อย่างเลือดเย็นเลยทีเดียว
แล้วเราจะรอดจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้าข้นสูงได้อย่างไร
ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19ผู้คนมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ภายในบ้าน ฉะนั้นการเปลี่ยนที่กรองอากาศของระบบระบายอากาศให้ถี่ขึ้นนั้นช่วยคุณได้ และจะยิ่งดีขึ้นไปอีกถ้ามีการติดตั้งเครื่องตรวจระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะเตือนคุณได้ว่าแต่ละส่วนของบ้านมีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่เท่าไหร่แล้ว การเปลี่ยนไส้กรองและการติดตั้งเครื่องวัดระดับมีข้อดีหลายข้อด้วยกัน และมันก็ดีเสมอกับสุขภาพของคนในบ้าน โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องนอนแต่เป็นทุกมุมของบ้านเลยทีเดียว
การจำกัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ยังช่วยลดอาการโรคตึกเป็นพิษ หรือ Sick Building Syndrome (SBS) ซึ่งโรคนี้จะทำให้เกิดความเหนื่อยล้า หายใจลำบาก และอาการแพ้ต่าง ๆ การเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่สมองจะช่วยให้ความสามารถในการคิดความเข้าใจของคุณดีขึ้น ทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ฉะนั้นการเน้นย้ำการจำกัดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในห้องเรียนหนังสือและพื้นที่ทำงานของบ้านจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนและการทำงานอย่างดีเยี่ยม และข้อดีที่ดีที่สุดที่มีผลต่อสุขภาพของคุณก็คือ…การนอนที่มีคุณภาพ! การนอนที่เหมาะสมตอนกลางคืนจะส่งผลให้เช้าวันต่อมาคุณจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัว การรู้สึกถึงความสดชื่นตลอดวันคือสิ่งที่วิเศษมาก ๆ ทั้งต่อตัวคุณเองและคนรอบข้างของคุณ